รีวิวทริปฮ่องกง กับ การขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของชิ อายุ 1ขวบ 2 เดือน
Taking Baby Abroad:
เจ้าชิช่างลั่นล้า วัยกำลังหัดเดินแบบนี้อยู่ไม่สุขแน่ๆ
- ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนค่ะ ชิอายุ 1 ขวบ 2 เดือนกว่าๆกำลังเดินค่ะ ที่ต้องเกริ่นเพราะเด็กทุกคนนิสัยไม่เหมือนกันนะคะ บางคนเลี้ยงง่าย บางคนเลี้ยงยากค่ะ จะพาไปต่างประเทศนี่ต้องรู้นิสัยลูกมากๆแล้วเราจะไม่เหนื่อยค่ะ เพราะเราจะเข้าใจเขา
- ชิเป็นเด็กนมแม่ กินนอนเป็นเวลา ยังนอนกับแม่อยู่
- เรื่องกินนี่เลือกกินบ้าง แต่ถ้าหิวบางครั้งก็กินได้ บางครั้งก็งอแงจะกินนมแม่แต่ส่วนใหญ่จะพยายามหัดให้กินข้าวค่ะ ชิกินข้าวได้เหมือนผู้ใหญ่ละ
- เป็นเด็กแข็งแรง ถ้าไม่เจ็บจริงๆจะไม่ร้องไห้
- ไม่ชอบนั่งรถเข็นทำให้กังวลใจมากกว่าอุ้มทั้งวันตอนไปเที่ยวจะไม่ไหวนะ
ชิกับการขึ้นเครื่อง
Time management ยิ่งกว่าสมัยเรียน กะอย่างดีว่าจะเล่นยังไง
นิทานกี่เล่ม ให้กินนมตอนไหน สุดท้ายประสบความสำเร็จหลับปุ๋ยไปครึ่งทางครับ
เป็นหนึ่งเรื่องที่กังวลมากที่สุดก่อนไปเลยว่าจะรอดไหม เพราะได้ยินคนพูดเรื่องนี้เยอะมาก หาข้อมูลเยอะมากอ่านในเน็ตทุกวันถึงวิธีการและทริคต่างๆ จนสรุปได้่ว่า ตอนเครื่องกำลังขึ้นให้เอานมให้ดูดจะได้ไม่ปวดหู แต่พอถึงเวลาจริงกว่าจะขึ้นเครื่อง (infant สามารถขอขึ้นเครื่องก่อนได้เลยค่ะ) กะเวลาตอนอยู่ในเครื่อง (การทำให้เด็กกำลังหัดเดินยอมนั่งอยู่กับที่เฉยๆนี่ยากมาก) นึกว่าเครื่องจะขึ้นละ อ้าว แอร์มีให้ดูทีวีสาธิต อ่ะ คิดว่าใช่ละ จะให้ลูกดูดละ ยังมี This is Captain speaking เฮ้อ เครื่องไม่ขึ้นซักที จะเลิกดูดแล้วนะ ก็หลอกล่อให้ดูดต่อไป พอขึ้นเครื่องซักพักดูดไปดูดมาก็หลับค่ะ แต่หลับไปแค่ 1 ชม. อีก ชม.ครึ่งก็อ่านนิทานให้ฟัง ชิชอบนิทานมาก เลือกไปแต่เล่มโปรดให้เขาค่ะ (ปกติ TG จะมีการ์ตูนให้ดู แต่ชิยังไม่ถึง 2 ขวบเลยไม่ให้ดูทีวีกับเล่นไอแพดค่ะ)
แต่ขากลับนี่ซิ วัดใจเลย ให้ดูดตั้งหลายรอบไม่หลับซักที ทำหน้าทำตาหน้ารักตาหวานใส่อีก มองแววตาลูกชั้นละ ไม่หลับชัวร์ เลยต้องหลอกล่อสารพัดนิทานเตรียมไปกี่เล่ม อ่านให้ฟังหมดทุกเล่ม ถือว่าโชคดีมาก เวลาชิปวดหู ชิจะเอามือชี้ไปที่หูค่ะ ก็เอาน้ำให้เขาดูด ไม่ร้องไห้เลย (ห้ามเอาของเหลวเข้า แต่พอเช็คอินเข้าไปแล้ว ที่สนามบินตรงที่กดน้ำดื่ม ก็เอาใส่ขวดเด็กที่เตรียมเอาไว้ได้ค่ะ ถ้ากลัวว่าไม่สะอาดสามารถของแอร์ได้เลยค่ะ)
ทริคง่ายๆที่รู้สึกว่าเจ๋งชะมัด
- ไปเร็วกว่าเวลาหน่อย ถ้าลูกต่ำกว่า 2 ขวบบอกเจ้าหน้าที่เลยว่ามี infants สามารถลัดคิวได้ตั้งแต่ทางเข้าเช็คอินกับสายการบิน ตรวจตม. จนถึงหน้าเกจขึ้นเครื่องเลยทีเดียว เวลาเห็นคนเยอะๆต่อคิว แล้วเราได้เข้าปรี๊ดดดด รู้สึกดีจริงๆ
- เล่นให้เหนื่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ คิดไปเองว่า ขึ้นเครื่องต้องหลับ ซึ่งบางทีก็สงสัยว่าเหนื่อยขนาดนี้ทำไมไม่นอนน้า ถ้าใครทำให้ลูกหลับได้ตลอดไฟท์ แม่ขวัญขอคาราวะค่ะ
- เอาของที่ลูกชอบไปเยอะ แต่ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ต้องใช้เสียง คือแต่ก่อนมี perception ว่าทุกคนต้องรักเด็ก แต่พระเจ้าช่วยมีคนไม่รักเด็กด้วย คือเอาของเล่นไปเพื่อให้เด็กเงียบ แต่ถ้าของเล่นเสียงดังโครมครามก็มีคนมองอยู่ดี เชอะ เชอะ
- บอกแอร์ว่า ขอของเล่นเด็กด้วยค่ะ ถึงลูกเรายังเล็ก แต่ก็ชอบอะไรที่แปลกตา ถึงเอามาไม่ได้เล่นก็เอามาให้ลูกดูก็ได้ค่ะ
ชิกับอาหาร
นมแม่อร่อย ง่ายสะดวก กินได้ทุกที่แม้แต่บนรถไฟครับ
ขออนุญาติเชียร์นมแม่มา ณ ที่นี้ พาชิเที่ยวบ่อยมากค่ะ พาไปเชียงใหม่ พาไปนู่นนี่ ที่สะดวกขนาดนี้เพราะนมแม่เลย หิวที่ไหนให้กินได้ที่นั่น ไม่ต้องพกอุปกรณ์เยอะ ไม่ต้องมีขวดนม เครื่องนึ่งขวดนม ฯลฯอีกมากมายก่ายกอง พอโตขึ้นต้องกินอาหารหลัก ถ้าเวลาเที่ยวผิดเวลาก็กินนมแม่รองท้องก่อนได้ ดีสุดๆเลยค่ะ เชียร์ เชียร์
เรื่องอาหารของชินี่ อันนี้ถือว่าพลาดมาก ขาไปไม่ได้เตรียมอะไรให้ชิกินเลย นึกว่ามาซื้อที่สนามบินหรือให้รอกินบนเครื่องได้ โอ้ยยย ผิดมหันส์ ที่สนามบินก็เดินไกล คนเยอะ ขนาดinfants สามารถแซงคิวได้ตั้งแต่เช็คอิน ตม. ฯลฯ แซงมาตลอดทาง ยังขึ้นเครื่องพอดีเวลาเลยค่ะ กว่าแอร์จะเสริฟอาหารอีก ชิดูหิวโซมาก แถมอาหารบนเครื่องเป็น อมเล็ต กับ โจ๊ก ซึ่งชิไม่ชอบทั้ง 2 อย่าง (ชิไม่ชอบอาหารที่ออกเหลว ชอบกินข้าวเม็ด) คือดูออกเลยว่าไม่ชอบ แต่ก็กินแบบทั้งๆที่ไม่ชอบนั่นแหละ
ของโปรด หมูหยองครับผม
แต่ที่ฮ่องกง โรงแรมรวมอาหารเช้า เลยตักข้าวใส่กล่องแล้วมีเตรียมหมูหยองไปจากประเทศไทย เวลาที่เที่ยวจนผิดเวลามากๆ ก็หยิบข้าวกล่องแล้วเอาหมูหยองโรยให้ชิกินค่ะ อยู่เมืองนอก กินข้าวเยอะกว่าอยู่บ้านเรา สงสัยคงเหนื่อยแล้วหิวทุกวัน อยู่ที่นั่นให้กินแบบสบายๆนะคะ ถ้าไม่กินก็ปล่อย อีกมื้อนึงก็จะกินเยอะเองค่ะ
ชิกินข้าวทุกที่ค่ะ รูปนี่คือกินบนกระเช้าไปนองปิง บนรถไฟ ทุกที่เลยแล้วแต่เวลาที่เขาหิวตามเวลาเมืองไทยค่ะ
ชิกับรถเข็น
นี่คือเหนื่อยจนหลับคารถเข็นเลย หันมาอีกทีอ้าว อยู่ท่านี้ซะแล้ว
ชิเป็นเด็กที่ไม่ชอบรถเข็นเลย ยากมาก วันแรกที่สุวรรณภูมิวัดใจกันไปเลย พยายามหัดแล้วก็ร้องไห้ คราวนี้ก็ปล่อยให้ร้องไป ใครจะทำใจอ่อนก็บอกว่า เวลาอยู่ฮ่องกงเดินเยอะๆจะอุ้มไม่ไหวนะ หนักขึ้นทุกวันด้วย ก็ร้องไห้ไปค่ะ แป๊บเดียวก็หยุดสะอึ้นฮักๆ ซักพักจำได้ก็ร้อง ร้องอยู่วันเดียว วันถัดไปขึ้นรถเข็นถีบตัวเด้งออก ต้องใช้ 3 คนจับ ก็ร้องไห้ประมาณ 30 วิ วันนั้นขึ้นรถเข็นกันหลายรอบ ต้องใช้คำว่า จับยัดเข้าไป จาก 30 วิ ก็ลดลงมาเรื่องเหลือ 10 วิ จนหลังๆเหลือแค่ แอ๊ แอ๊ ค่ะ
เข้าใจเลยว่าทำไมฝรั่งเขาเลี้ยงลูกดูมีระเบี๊ยบระเบียบ เพราะเขาใจแข็งกว่าค่ะ สุดท้ายลูกชิ้นของแม่ก็เป็นเด็กรถเข็นได้ตลอด 4 วัน 3 คืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ สบายไม่ต้องอุ้มเดิน
ชิกับการเที่ยวระหว่างวันและการนอน
Disney Land เล่นจนหลับไป
ชินอนง่ายอยู่แล้ว ขวัญสอน Baby Sign ชิตั้งแต่ชิอายุประมาณ 8 เดือน คือทุกครั้งก่อนจะให้กินนมขวัญจะ sign แล้วพอเขาดูดทุกครั้งก็ทำท่า จนตอนนี้ถ้าเขาหิวนม หรือง่วงนอนเขาจะ Sign ค่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมาก แนะนำเลยว่าควรสอนค่ะ ทีนี้เวลาเราเที่ยวอยูุ่้ถ้าเขาทำท่านี้แปลว่าจะกินนม (ถ้าหิวข้าวจะพูดว่าหม่ำๆ) ขวัญก็จะหาสถานที่ให้นมเขาค่ะ เตรียมผ้าคลุมให้นมไปด้วย ให้นมได้ทุกที่ เวลาอยู่บนรถไฟฟ้าถ้านั่งตรงกลางๆ บางทีขวัญก็ขอ switch seat กับคนที่นั่งริมนะคะ เพื่อความสะดวกสบาย เพราะลูกตัวใหญ่ คนในรถไฟก็ไม่มองกันนะ หรือถ้ามองก็ช่างมันเถอะค่ะ ลูกหิว 555
พอหนังท้องตึง ชิก็ง่วงก็จับนอนในคาร์ซีท อันนี้ก็ประทับใจกับ Combi Well comfort มาก ว่าล้อดี ถนนบน HK ไม่เรียบก็เข็นมาได้ พับเก็บก็ง่าย น้ำหนักเบาดีค่ะ
พาลูกเข้าไปดู 4D ด้วยกัน ใช้ความพยายามแต่ประสบความสำเร็จค่ะ
สรุปคือมาเที่ยวนี้ ง่ายกว่าที่คิดมาก ตอนแรกคิดในใจว่า ต้องเหนื่อยมากจนไม่สนุกแน่ แต่สุดท้ายก็สนุกค่ะ แต่คุณแม่ต้องทำใจนะคะว่าเที่ยวไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน ถึงขนาดติดใจรีบจะจองอีกหลายทริปให้ชิไปก่อน 2 ขวบ เพราะชิไม่ต้องเสียค่าอะไรเลยนอกจากค่าภาษีค่ะ
สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณต่อกับพ่อแม่ต่อมากๆที่ช่วยประคับประคองเจ้าจิ๋วให้ไปและกลับมาอย่างสนุกสนานตลอดรอดฝั่งค่ะ
ถึงจะหนัก แต่ด้วยความที่แม่อยากเที่ยว
แล้วก็ไม่อยากจากลูกไปกันเอง เลยต้องกระเตงกันไปด้วยกันแบบนี้แหละ
-------------------------------
รีวิวของแม่ขวัญเอง
หมู่บ้านชาวประมง รียีมูน สวรรค์ของคนรักอาหารทะเล
แต่น่าสงสารเจ้ากุ้งหอยปูปลานัก
มา HK รอบนี้ไม่เหมือนรอบก่อนๆที่เคยไป ปกติไปกับทัวร์ ไปกับเพื่อน แต่รอบนี้ไปเยี่ยมอาโกวของสามีที่ HK ค่ะ เลยประทับใจกับการต้อนรับมาก ได้กินที่อร่อยวิวสวยเห็นน้ำแสงสีของฮ่องกง ที่กินต้องจองโต๊ะตลอด คือถ้าไปกันเองไม่มีทางได้กินแน่ๆ (แอบคิดถึงนุ๊ก(เจ๊โบ)ว่าต้องอิจฉาแน่ๆ 5555 ได้ไปหมู่บ้านชาวประมง กินกุ้งมังกรตัวเท่าแขนแหนะ โฮะๆ)
งวดนี้จองในงานการบินไทยค่ะ ทั้งตั๋วเครื่องบินกับที่พัก Park Hotel (Tsim Sha Jui) ที่พักดีมาก ใหญ่ สะอาด ถือว่ารอบนี้ประทับใจทุกอย่าง ยกเว้น...... ไม่อยากจะคอมเม้นท์ให้เสียฟิล แต่คนที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงเปลี่ยนไปมาก บางคนว่าเพราะคนจีนมาอยู่เยอะขึ้นค่ะ
อืม... คนแซงคิวเยอะมาก คนแย่งกันขึ้นรถไฟ แล้วอิชั้นก็ต้องอุ้มลูกนะคะ คือแทบจะเอาชิริวไปยืนข้างหน้าคนแล้วสบตาว่า ลุกขึ้นมาให้ชั้นนั่งเด๋วนี้นะ เห็นไหม เจ้าลิงน้อยอยู่สุขซะที่ไหน โอม จงลุก จงลุก
ไปดิสนี่แลนด์ค่ะ พระเจ้า่ช่วย คือแบบเลือกไปวันธรรมดาแล้วนะ คนก็ยังกะหนอน แถมโล้งเล้งกันสุดๆค่ะ แล้วก็แซงคิวกันอีกแล้ว อยากจะกรี๊ด ไปเล่นเครื่องเล่นกันหนึ่งใน Toy Story Land ไปเข้าคิวคนเดียวเพราะคนอื่นสมัครใจอยู่กับชิริวข้างนอก ต้องทำตัวพองๆให้เต็มแถมเพราะไม่งั้นจะมีคนทำเนียนแซง อยากจะบร้าตาย แต่ก็สนุกอีกค่ะ